‘Burn out Syndrome’ หรือ’ภาวะหมดไฟ’ คืออะไร? คุณเคยมีอาการเหล่านี้หรือไม่?
เครียด หดหู่ ขาดแรงจูงใจในการทำงาน เหนื่อย ก้าวร้าว หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน ไม่อยากคุยกับใคร ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง รู้สึกเหมือนจะมีอาการซึมเศร้า เป็นต้น ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองมีอาการเหล่านี้ ลองสังเกตุตัวเองดูอีกทีว่าคุณอาจจะตกอยู่ใน’ภาวะหมดไฟ’ หรือ ‘Burn out syndrome’
ภาวะหมดไฟนี้ไม่ได้เกิดแค่ในวัยหนุ่มสาวออฟฟิศทั่วไป หรือแค่ผู้บริหารเท่านั้นแต่สามารถเกิดได้กับทุกอาชีพและทุกเพศทุกวัยโดยเกิดจากหลากหลายสาเหตุด้วยกันซึ่งสาเหตุหลักส่วนใหญ่แล้วก็มาจากการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น งานเยอะ เครียด เกิดความกดดันสูง ต้องรับมือกับงานที่ไม่ถนัด ต้องแก้ปัญหาคนเดียว ไม่ได้รับความยุติธรรม ขาดความเชื่อใจ ขาดอำนาจในการตัดสินใจ รู้สึกไร้ตัวตน หรือไม่ว่าจะเป็นการที่ต้องทำแต่กิจวัตรเดิมๆ ขาดความสนุก ขาดความสัมพันธ์ในชีวิต รวมถึงการยึดติดความสมบูรณ์แบบมากเกินไป(perfectionist)อีกด้วย โดยสรุปแล้วภาวะหมดไฟมักจะเกิดขึ้นจากความเครียดสะสมและการมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากเกินไปนั่นเอง
แต่ภาวะหมดไฟนี้เราสามารถจัดการมันด้วยตัวเองได้ โดยการดูแลตัวเองดังต่อไปนี้ 1.ยอมรับความแตกต่างของคน
2.เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นบ้าง
3.ปรับทัศนคติในการทำงาน
4.หากิจกรรมทำเพื่อผ่อนคลายลดความเครียด เช่น นั่งสมาธิ ดูหนัง ฟังเพลง ปลูกต้นไม้
5.นอนหลับให้เป็นเวลา พักผ่อนให้เพียงพอ
6.ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
7.แต่ถ้ารู้สึกไม่ดีขึ้นให้หาที่ปรึกษา พบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ